กาฬสินธุ์ – จังหวัดกาฬสินธุ์ สรุปความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาภูพาน พบเส้นทางคมนาคมเสียหาย 854 สาย สะพานขาด 15 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายกว่า 30,000 ไร่ ขณะทางจังหวัดประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยติดกับลุ่มน้ำให้ระวังน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวใกล้ระดับวิกฤตแล้ว
จากการติดตามผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของพายุฝนที่ตกติดต่อกันปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากด้านอำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดสกลนคร กระแสน้ำป่าจากเทือกเขาภูพานได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและสร้าง ความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะที่ อ.คำม่วง อ.สามชัย อ.สหัสขันธ์
จากการสำรวจความเสียหายหลังจากที่ทางจังหวัด ได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วม 12 อำเภอ จาก 18 อำเภอ พบว่า ความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาภูพาน มีเส้นทางคมนาคม เสียหาย 854 สาย สะพานขาด 15 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายกว่า 30,000 ไร่ ส่วนใหญ่จะอยู่ตอนเหนือของทางจังหวัด
ด้าน นายกวี กิตติสถาพร ผวจ.กาฬสินธุ์ ประกาศเตือนประชาชนให้ระวังภัยจากน้ำล้นตลิ่งที่เกิดจากน้ำป่า โดยเฉพาะราษฎรในอำเภอยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ร่องคำ อ.ฆ้องชัย ซึ่งอยู่ในเขตลำน้ำปาวและลำน้ำชี เนื่องจากคาดว่าอีกไม่เกิน 7 วัน เขื่อนลำปาวอาจจะมีการะบายน้ำล้นลงทางสปริงเวย์ที่จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน ้ำเพิ่มสูง
ส ำหรับปริมาณน้ำเขื่อนลำปาวในขณะนี้ล่าสุดมีปริมาณอยู่ที่ 1,346 ล้าน ลบ.ม.จากปริมาณเก็บกักที่ 1,430 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเหลืออยู่อีกประมาณ 100 ล้าน ลบ.ม.ก็จะเกินปริมาณเก็บกักประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติควรระวังเนื่องจากน้ำใ นเขื่อนลำปาวเริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว
|
ข้อมูลเขื่อนลำปาว ตั้งอยู่ที่ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
เริ่มก่อสร้างเมื่อปี ๒๕๐๖ แล้วเสร็จเมื่อปี ๒๕๑๑
ระดับน้ำสูงสุด + ๑๖๕.๗๐ เมตร (ร.ท.ก.)
ปริมาตรน้ำที่ระดับสูงสุด ๒,๕๑๐ ล้าน ลบ.ม.
ระดับน้ำเก็บกักปรกติ + ๑๖๒.๐๐ เมตร (ร.ท.ก.)
ปริมาตรน้ำที่ระดับเก็บกักปกติ ๑,๔๓๐ ล้าน ลบ.ม.
มติ ครม. สัญจรเมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี ๒๕๔๘ ครม.สัญจรอนุมัติเงินงบประมาณถึง ๓,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อใช้ก่อสร้างเสริมสันเขื่อนลำปาวให้สูงขึ้นอีก ๒.๐๐ เมตรเพื่อให้เก็บกักน้ำได้จาก ๑,๔๓๐ ล้าน ลบ.ม.เป็น ๑,๙๓๐ ล้าน ลบ.ม.จากระดับ + ๑๖๒.๐๐ เมตร เป็น ๑๖๔.๐๐ เมตร (ข้อสังเกตุว่าเสริมไปทำไม? ในเมื่อปริมาตรเก็บกักสูงสุดของเขื่อนลำปาวเก็บกักได้ถึง ๒,๕๑๐ ล้าน ลบ.ม.และระดับเก็บกักน้ำสูงสุดอยู่ที่ + ๑๖๕.๗๐ เมตร.)เกษตรกร/ชาวนาที่อาศัยอยู่ใต้เขื่อนลำปาวพบว่า เขื่อนลำปาวมีรอยรั่วซึมถึง ๓๕ แห่ง.
จากข้อมูลที่มี พบว่าเขื่อนลำปาวปล่อยน้ำลงมาท่วมพื้นที่เกษตรกรรม ท้ายเขื่อนลำปาวมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๖, ๒๕๔๗, ๒๕๔๘ ,๒๕๔๙, ๒๕๕๐. และผมก็ยังเชื่อว่า ปี๒๕๕๑ นี้ ระหว่างต้นเดือน กันยายน – ต้นเดือนธันวาคม ให้ระวังน้ำจะท่วมอีกนะครับ.
ความจริงที่น่าคิด ภาคอิสานขาดน้ำจริงหรือ? จริงเป็นบางปีครับที่แล้งนานเท่านั้น ดังข้อมูลเขื่อนลำปาว ครับ มีน้ำครับเพียงแต่การบริหารจัดการน้ำมิได้คำนึงถึงประโยชน์ของเกษตรกร/ชาวนาเท่านั้น เช่น การให้บริการน้ำนั้นกลับไปให้หน่วยงานที่ไม่มีทั้งคนและงบประมาณดูแล ลุ่มน้ำหรือฝายมีน้ำแต่ชาวนาต้องจ่ายค่าสูบน้ำซึ่งสวนกระแสร เพราะชาวนาไทยยากจนอยู่แล้ว (ค่าสูบน้ำ ๘๐ – ๑๐๐.-บาท/ไร่) และสถานีสูบน้ำส่วนใหญ ถ้ามีน้ำ ปั้มน้ำก็มักจะเสีย ชาวนารับกรรมทั้งขึ้นทั้งล่องครับ.
รายชื่อเขื่อนเก็บกักน้ำที่มีปัญหาคล้ายกันมีดังต่อไปนี้.-
๑.)เขื่อน ลำปาว ทำให้น้ำท่วม ทั้งๆที่มีปริมาณน้ำเพียง ๕๖%ของปริมาตรเก็บกักสูงสุดเท่านั้น.
๒.)เขื่อนราษีไศล ดังที่เป็นข่าวที่ทราบกันดี ก่อสร้างใหญ่เกินจำเป็น จึงต้องสร้างคันดินกั้นทั้งสองฝั่ง ทำให้น้ำไหลลงแม่น้ำขีไม่ได้ เกิดความเสียหาย และไม่มีไครกล้าแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ.
๓.)เขื่อน หัวนา สร้างเสร็จแล้วกว่า ๑๐ ปี ยังไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ เพราะประชาชนต่อต้าน.
๔.)เขื่อนปากมูล ผู้มีอำนาจไม่ยอมฟังเสียงของประชาชน ไปฟังแต่กลุ่มทุนผลิตไฟฟ้า จึงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เวลาผ่านมาแล้ว เกือบ ๒๐ ปี.
๕.) เขื่อน พนมไพร สร้างใหญ่เกินไป มีปัญหาเช่นเดียวกัน.
พื้นที่ริมแม่น้ำโขงไม่ขาดน้ำแต่รัฐบาลกลับจะทำโครงการ สูบน้ำสวนกระแสร
๖.) เขื่อนลำพระเพลิง ปล่อยน้ำท่วมทุกปีเช่นกันเพราะเขื่อนเก็บกักน้ำได้เพียง ๔๖%ของปริมาตรเก็บกักสูงสุด ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนถูกน้ำท่วมเสียหายทุกปี รวมทั้งอู่ข้าวอู่น้ำที่อำเภอพิมาย ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มอันอุดมสมบูรณ์ในอดีต ทั้งที่มีฝายทุ่งสัมฤทธิ์เก็บกักน้ำก็ช่วยป้องกันน้ำท่วมไม่ได้ เกษตรกร/ชาวนา ๙ ตำบลใน ๑๒ ตำบลของอำเภอพิมาย น้ำท่วมไร่นาเสียหายทุกปี.
๗.)เขื่อนลำแซะ จะเกิดศึกแย่งน้ำเหมือนภาคตะวันออก เขื่อนเก็บน้ำได้ประมาณ ๔๘% ของความจุสูงสุด(ประมาณ ๑๐๐ ล้าน ลบ.ม.) ยังจะไปแย่งน้ำจากเกษตรกร/ชาวนามาใช้ผลิตน้ำประปาอีกครับ.
๘.)เขื่อนมูลบน วิบัติไปนานแสนนานแล้วครับ.
๘.)เขื่อน ลำนางรองไม่มีข้อมูลน้ำนานมาแล้วครับ.
๙.)เขื่อน ลำตะคอง ไม่มีไครแก้ไขคือ หาทางผันน้ำมาเติม (ผันจากน้ำตกเหวนรกมาลงลำตะคอง ปริมาณ กว่า ๑๐๐ ล้าน ลบ.ม./ปี.)